ตะกร้อ ถือเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะในการเล่นและมีการเล่นกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีความนิยมในการเล่นตะกร้อที่มากเช่นเดียวกัน ในปัจจุบันมีนักกีฬาตะกร้ออยู่มากมายย อีกทั้งตะกร้อยังเป็นกีฬาละเล่นพื้นบ้านของเราอีกด้วย ซึ่งการเล่นตะกร้อนั้นก็ต้องใช้ทั้งทักษะ ความแข็งแรง และความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบท่าทางอีกด้วย โดยการเล่นตะกร้อในบ้านเรานั้นก็มีหลายประเภท 8 ประเภทของตะกร้อไทยที่อยากให้รู้จัก ซึ่งแต่ละประเภทก็ได้รับความนิยมแตกต่างกัน อีกทั้งยังมีกฎกติกาที่ต่างกันไปบ้าง
8 ประเภทของตะกร้อไทยที่อยากให้รู้จัก
1.ตะกร้อวงเล็ก
ตะกร้อแบบเริ่มแรก ที่เป็นต้นกำเนิดของการเล่นตะกร้อ คือ ตะกร้อวงเล็ก ซึ่งเป็นตะกร้อเริ่มแรก ก่อนที่จะมีตะกร้อประเภทอื่น ๆ ตามมา มีผู้เล่นเพียงคนเดียว เตะหรือเดาะลูก เล่นให้ลูกลอยอยู่ในอากาศ และใช้อวัยวะหลาย ๆ ส่วนที่แตกต่างกันเตะหรือเดาะลูก โดยใช้ทั้งเท้า เข่า ศอก ศีรษะ หรืออาจจะมีผู้เล่นเพิ่มเป็น 2 คน ก็จะมีการโยนให้ผู้ยืนอยู่ตรงข้ามเตะโต้กันเป็นเวลานาน ๆ โดยทั่วไปแล้วผู้เตะมักจะเตะลูกที่ตนถนัด เช่น ลูกแป ลูกหลังเท้า ลูกโหม่ง เป็นต้น การเล่นตะกร้อวงเล็กนั้นจะเล่นในพื้นที่แคบ เช่น บนโต๊ะ หรือสนามซึ่งเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 – 3 เมตร เพราะเป็นการโชว์ความสามารถ และใช้ผู้เล่นน้อยจึงไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะ
2. ตะกร้อวงใหญ่
ต่อมาที่ตะกร้อที่มีพัฒนาและมีรูปแบบคล้าย ๆ กับตะกร้อวงเล็กนั่น คือ ตะกร้อวงใหญ่ ที่เพิ่มจำนวนคนเข้ามาทำให้การแข่งขันสนุกขึ้น ตะกร้อวงใหญ่จะเล่นในสนามเรียบ มีขขาดที่ใหญ่กว่าสนามตะกร้อวงเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8 – 14 เมตร และมีผู้เล่นตั้งแต่ 5 – 8 คน ในส่วนของท่าทางการเล่นนั้น ก็มีลักษณะเช่นเดียว กับการเล่นตะกร้อวงเล็ก ผู้เล่นต้องระมัดระวังจังหวะการเล่น ท่าทางต่าง ๆ ตลอดจนน้ำหนักหรือแรงเหวี่ยงให้เหมาะสม เพราะต้องใช้สนามที่กว้างขึ้น ทำให้ถ้าส่งแรงที่ไม่พอดี อาจจะทำให้ลูกไม่ถึงผู้รับ และด้วยคนที่มีจำนวนเยอะ ทำให้เพิ่มความสนุกในการแข่งขันมากขึ้น

3. ตะกร้อเตะทน
ประเภทของตะกร้อที่คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันดี เพราะไม่ค่อยได้รับความนิยมในการเล่นมากนักอย่าง ตะกร้อเตะทน หรือตะกร้อวงเตะทน ซี่งเป็นตะกร้อที่มักจะนิยมเล่นแข่งขันกันเป็นทีม มีผู้เล่นจำนวน 6 คน ใช้เวลาในการเตะตะกร้อในแต่ละวง 5 นาที วงใดที่ทำคะแนนได้มากที่สุดก็จะชนะไป ตะกร้อเตะทนเป็นกีฬาที่นิยมเล่นกันในสมัยโบราณ ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เห็นน้อยลงมาก
4. ตะกร้อพลิกแพลง
ตะกร้อที่ต้องใช้ความชำนาญ ความสามารถ และท่วงท่าลีลาในการเล่น เพื่อความสนุกสนาน คือ ตะกร้อพลิกแพลง ซึ่งเป็นตะกร้อที่ได้รับความนิยมในการเล่นในสมัยนี้เช่นเดียวกัน ตะกร้อพลิกแพลง หรือ “การติดตะกร้อ” ผู้เล่นต้องมีความชำนาญเป็นอย่างดี เพราะลูกที่จะเตะแต่ละท่า ต้องดัดแปลงมาจากท่าธรรมดา ส่วนมากไม่ได้เล่นเพื่อการแข่งขัน แต่จะเป็นการแสดงโชว์ความสามารถของผู้เล่น เพื่อความสวยงาม และเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินเท่านั้น ใช้การตั้งวงเหมือนตะกร้อทั่วไป ผู้เล่นจะมีตั้งแต่ 2 – 8 คน แต่ละคนก็จะเตะ หรือใช้กระบวนท่าส่งลูกไปยังคู่ ส่วนคู่โต้ก็จะแสดงท่าพลิกแพลงต่างๆ ในลักษณะที่เรียกกันว่า “ติดตะกร้อ” สักระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็จะส่งกลับไปยังผู้เล่นอื่นบ้าง ผู้เล่นร่วมวงคนอื่นก็จะแสดงท่าพลิกแพลงที่แตกต่างกันออกไปอีก ผู้เล่นที่ชำนาญจะติดตะกร้อได้ตั้งแต่หนึ่งลูก ไปจนถึง 17 ลูกก็มี ซึ่งการเล่นตะกร้อพลิกแพลงนั้นต้องใช้ความชำนาญ และทักษะที่ฝึกฝนมาอย่างดี รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ในแต่ละท่าที่เราจะพลิกแพลงด้วย เรียกได้ว่าเป็นกีฬาที่ผสมผสานศิลปะลงไปอย่างเข้ากัน
5. ตะกร้อชิงธง
เป็นกีฬาที่สนุก แถมผสมผสานหลายหลายกีฬามาอยู่รวมกันเป็น ตะกร้อชิงธง หรือตะกร้อเตะช่วงชัย การเล่นตะกร้ออีกประเภทที่มีทั้งความสนุกสนาน และต้องใช้ฝีมือที่เก่งกาจ เพราะเป็นการเล่นแบบผสานหลายกีฬาเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นการเล่นตะกร้อ ที่มีการแข่งขันวิ่งวัวหรือวิ่งเร็ว โดยจะขีดเส้นด้วยปูนขาวลงบนพื้น ทำเป็นช่องทางกว้างประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตร เมื่อผู้เข้าแข่งขันยืนประจำที่เส้นเริ่มต้น จากนั้นเมื่อได้ยินสัญญาณให้เลี้ยงตะกร้อด้วยอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ยกเว้นมือ โดยพยายามพาลูกตะกร้อไปยังปลายทาง มีเส้นชัย มีธงปักไว้เป็นเครื่องหมาย ถ้าผู้เล่นคนใดสามารถเลี้ยงตะกร้อโดยไม่ออกนอกลู่ และไม่ตกพื้นจนกระทั่งถึงเส้นชัยก่อน จะเป็นผู้ชนะการแข่งขัน คล้ายกับกีฬาวิ่งแข่งที่เรามักจะเล่นกัน เปลี่ยนจากการวิ่งมาเป็นแข็งเลี้ยงตะกร้อแทน ซึ่งต้องใช้ทักษะและฝีมือที่ชำนาญเช่นเดียวกัน
6. ตะกร้อลอดห่วง
อีกหนึ่งประเภทของกีฬาตะกร้อ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา คือ ตะกร้อลอดห่วง ที่มักจะมีการแข่งขันอยู่บ่อย ๆ ทั้งในกีฬาพื้นบ้าน และกีฬาทั่วไป ซึ่งตะกร้อลอดห่วงจะมีผู้เล่น 7 คน สำรอง 3 คน ในขณะที่กำลังเล่นจะไม่สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ แต่จะเปลี่ยนได้ในการแข่งขันคราวต่อไป สนามแข่งเป็นพื้นราบสามารถแข่งได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ต้องมีลวดสปริงขึงไว้ระหว่างเสาทั้งสองต้นซึ่งห่างกันประมาณ 20 เมตร ต้องสูงจากพื้น 8 เมตร มีรอกสำหรับแขวนห่วง 1 ตัว อยู่กึ่งกลางลวดสปริงห่วงชัยประกอบด้วยวงกลม 3 ห่วง ขนาดเท่ากัน จะทำด้วยโลหะ หวาย หรือไม้ก็ได้ ขอบล่างของห่วงต้องสูงจากพื้นสนาม 5.75 เมตร มีผู้ชักรอก 1 คน ใช้เวลาในการแข่งขันครั้งละ 50 นาที ไม่มีพัก ผู้เล่นทั้ง 7 คน ยืนเป็นวงห่างกันพอสมควร ทุกคนในทีมสามารถเตะตะกร้อเข้าห่วงได้ และจะเตะลูกตะกร้อท่าใดก็ได้ ซึ่งมีคะแนนให้กับทุกท่าตามความยากง่ายของท่า และทุกลูกที่เข้าห่วง ทีมใดได้คะแนนสูงสุดในเวลาที่กำหนดเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งเป็นเกมที่ได้รับความนิยมในการแข่งอย่างมาก เพราเล่นเป็นทีมได้อีกทั้งยังมีความสนุกจากการลุ้นแต่ละท่าที่จะเข้าห่วงด้วย

7. ตะกร้อข้ามตาข่าย
ตะกร้อ ถือเป็นกีฬาที่ผสมผสานหลายกีฬาเข้าด้วยกัน จนได้ตะกร้อประเภทใหม่ ๆ เสมอ เช่นเดียวกันกับ ตะกร้อข้ามตาข่าย ที่มีที่มาจากนักตะกร้อและนักแบดมินตันในอดีตบางท่านพยายามการเล่นตะกร้อกับแบดมินตันเข้าด้วยกันและเรียกกีฬานี้ว่า “ตะกร้อข้ามตาข่าย” โดยมีการนับคะแนนแบบแบดมินตัน และได้มีการร่างกติกาตะกร้อข้ามตาข่ายขึ้นมา ซึ่งเป็นกีฬาที่มีมายาวนาน และได้รับความนิยมขึ้นมาตามลำดับ ทำให้มีผู้เล่นจำนวนมาก
8. เซปักตะกร้อ
มากันถึงตะกร้อที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่มีผู้เล่นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการแข่งขันหลาย ๆ ครั้ง คือ เซปักตะกร้อ หรือตะกร้อข้ามตาข่ายแบบสากล กีฬาระดับสากลที่ในบ้านเราก็ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก และมีนักกีฬาเซปักตะกร้ออยู่มากมาย เซปักตะกร้อ เป็นกีฬาที่ได้พัฒนามาจนเป็นที่แพร่หลายไปเกือบทั่วโลก ประเทศมาเลเซียเป็นผู้คิดค้นกติกาการเล่น ซึ่งลักษณะการเล่นเซปักตะกร้อคล้ายกับการเล่นตะกร้อข้ามตาข่ายของไทย แต่ต่างกันตรงรูปแบบ สนาม การเล่นลูก การนับคะแนน และกติกาการเล่น ซึ่งในปัจจุบันก็มีการตกลง และร่างกฎกติกาที่ใช้ในการแข่งขันเซปักตะกร้อขึ้นมาโดยเฉพาะและได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม

ตะกร้อ เป็นกีฬาที่มีการละเล่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ และมีการพัฒนากฎกติกาต่าง ๆ ขึ้นมามากมายตามยุคสมัย อีกทั้งยังมีตะกร้อให้ได้เลือกเล่นหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็ได้รับความนิยมในบ้านเรา อีกทั้งบางประเภทยังเป็นกีฬาที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของคนในอดีตอีกด้วย ซึ่ง 8 ประเภทของตะกร้อไทยที่อยากให้รู้จัก เป็นประเภทของกีฬาตะกร้อที่ใช้เล่นในประเทศไทย และยังเป็นกีฬาพื้นบ้านของเราอีกด้วย
นอกจาก กีฬาตะกร้อ จะเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในไทยแล้วนั้น ก็ยังมีกีฬใาชนิดอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมไม่แตกต่างกัน อย่าง กีฬาวอลเลย์บอล เป็นกีฬาที่ได้รับความสนใจอย่างมากในบ้านเรา ทั้งในการแข่งขัน และใช้เป็นกีฬาที่มักจะเล่นกันในเวลาว่าง หรือใช้ในการออกกำลังกายกับเพื่อน สำหรับใครที่สนใจกีฬาวอลเลย์บอลสามารถ คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่
แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบเล่นกีฬาที่มันเป็นทีมนั้้น ก็ยังมีกีฬาหลาย ๆ ประเภทที่สามารถเล่นได้คนเดียว ใช้อุปกรณ์น้อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมีเวลาให้ตัวเอง ไม่ชอบความวุ่นวาย 6 กีฬาที่สามารถทำได้คนเดียว ใคร ๆ ก็เล่นได้ เป็นกีฬาที่เราสามารถเล่นได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังใช้ออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี